วันนี้ เราต้องตื่นตีสี่ครึ่ง เพื่อเตรียมตัวแพ็คกระเป๋า เช็คเอาท์ ไปเที่ยวเมือง ซาลซ์บูร์ก เราได้มีการเรียกรถแท็กซี่ใช้บริการ Uber ให้มารับที่อพาร์ทเม้นท์เวลา 05.15 น. ตอนเช็คเอาท์นำกุญแจไปไว้ที่เดิม รถมาตรงเวลา ค่าแท็กซี่ไปที่สถานีรถไฟ 43 ยูโร คนละ 538 บาท ไปถึงสถานีรถไฟก่อนเวลา เราได้จองตั๋ว Flixtrain เที่ยว 6.0ุ6 น. ไว้ล่วงหน้า ค่ารถไฟจากเวียนนาไปซาลซ์บูร์ก คนละ 40.90 ยูโร 1,540 บาท มีรถเที่ยวเวลา ตีห้ากำลังจะออก ได้สอบถามผู้โดยสารในรถไปซาลซ์บูร์ก เราก็เลยขึ้นรถเที่ยวนี้ รถใหม่สะอาด ผู้โดยสารไม่เยอะ เราซื้อตั๋วชั้น 2 ขยับไปนั่งชั้น 1 ทางเจ้าหน้าที่มาสแกนตั๋วสลับที่นั่งให้ไม่ได้ว่าอะไร ที่นั่งมีโต๊ะ ที่ชาร์จแบตให้ กินขนมปัง กาแฟ กันบนรถ กินเสร็จเราก็เตรียมตัวนอน อุณหภูมิบนรถจะอุ่นสบาย
ไปถึงซาลซ์บูร์ก เวลา 8.15 น. ถึงก่อนเวลา มีฝนตก อากาศเย็นมาก พี่กับน้องสองคน นั่งแท็กซี่ไปเอารถเช่า ค่าแท็กซี่ 369 บาท ให้เรารออยู่ที่สถานีรถไฟ นั่งกินกาแฟรอ และซื้อขนมสำหรับไปกินในรถ


สองคนกลับมารับเรา เวลา 10.00 น. ต้องใช้เวลาทำเอกสารเช่ารถ วันนี้พี่ของเราทำหน้าที่ขับ รถที่ได้มาเป็นรถ Audi ค่าเช่ารถ 5,575 บาท ซื้อประกันเช่ารถเพิ่ม 1,311 บาท ใส่กระเป๋าทั้งสามใบได้พอดี จุดหมายปลายทางของเรา 3 คน ในวันนี้ คือเมือง ฮัลล์สตัลทท์ (Hallstatt) เมืองในฝันที่ใครๆ ก็อยากมา ใช้เวลาวนที่จะออกนอกเมืองเกือบครึ่งชั่วโมง ค่อยๆ ขับไป ในระหว่างทางมีฝนตกบางแห่ง บรรยากาศตามเส้นทางที่ออกนอกเมืองมา สวยงามมาก ยิ่งใกล้ๆถึงหมู่บ้านฮัลส์สตัทท์ ยิ่งสวย ยังมีหิมะเกาะตามภูเขาให้เห็น หมอกลอยปกคลุมขาว ไปถึงเมือง ฮัลล์สตัลทท์ เวลาประมาณบ่ายโมง นักท่องเที่ยวยังไม่มากเท่าไร หาที่จอดรถ เข้าห้องน้ำ เดินเล่นในหมู่บ้าน หมู่บ้านฮัลส์สตัทท์ ตั้งอยู่ในเมือง Salzkammergut เป็นเมืองมรดกโลกริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ของประเทศออสเตรีย มีภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเลสาบทำให้ภาพเหล่านั้นกลายเป็นภาพโปสการ์ดยอดนิยมส่งต่อให้คนทั่วโลกได้เห็น ตรงกลางหมู่บ้าน จะมีเสาหิน Holy Trinity อยู่ตรงกลางรายล้อมด้วยอาคารบ้านเรือนสีหวาน ที่เปิดเป็นร้านขายของฝาก ร้านอาหาร และโรงแรม ตลอดทางเดิน



เดินจากด้านล่างของหมู่บ้านขึ้นไปยังจุดไฮล์ไลท์ ที่ถ่ายภาพออกมาเป็นโปสการ์ด เป็นจุดสุดท้าย ใช้เวลาเกือบบ่ายสามโมง ตั้งใจจะหาร้านอาหารนั่งกินบรรยากาศให้เต็มที่ พอเดินดูทุกพื้นที่ เวลาแทบไม่พอ ต้องรีบกลับไปยัง เมืองซาลซ์บูร์ก ก่อนมืด ด้วยเราต้องคืนรถ และเดินทางต่อไปยังเมืองมิวนิค ตอน 2 ทุ่ม อาหารกลางวันกลายเป็นขนมปัง แทน ขากลับนั่งรถดูวิวข้างทาง จอดเก็บภาพบางจุดที่สวยงามตามรายทาง ไม่ผิดหวังสำหรับภาพบรรยากาศที่ได้เห็นกับความตั้งใจและคุ้มค่าสำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่ หมู่บ้านฮัลส์สตัทท์แห่งนี้ เรากลับเข้าเมืองซาลซ์บูร์ก ถึงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น หาที่จอดรถริมถนนในเมืองเดินเล่นที่สวนกับดูร้านแบรนด์ดังๆ ตั้งอยู่จัตุรัสในเมือง จนถึงเวลา 18.30 น.






ได้เวลาอาหารเย็นเดินหาร้านอาหารเข้าไปดูแต่ละร้าน ต้องใช้เวลารอนาน ตัดสินใจเข้า Shop Spar ซื้ออาหารกล่อง ขนมปัง ผลไม้ เตรียมไปกินบนรถ เดินมาถึงใกล้ที่จอดรถ เจอร้านอาหารจีน ได้น้องสาวของเราใช้ภาษาจีน ไปคุย เจ้าของร้านถูกใจจัดอาหารจานเดียวให้อย่างรวดเร็ว คนละ 243 บาท กินเสร็จ ส่งเราไปที่สถานีรถไฟ ส่วนสองคน นำรถไปคืนและต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง น้ำมันที่ใช้ไปในวันนี้ 700 บาท คืนรถเสร็จ ประมาณทุ่มครึ่งมาเจอกันที่สถานีรถไฟ เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไฟเดินทางต่อไปยังเมืองมิวนิค รถออกจากที่นี่เวลา 20.50 น. รถมาตรงเวลา ขึ้นไปนั่งแยกกันคนละที่เพื่อที่จะได้นอนกัน คิดว่าไม่มีผู้โดยสาร หลับไปได้หน่อยไม่กี่สถานี มีเสียงเด็กกับผู้หญิง จำนวนมากวิ่งขึ้นรถ มานั่งกระจายกันเต็มตู้รถที่เรานั่ง ทุกคนขึ้นมา จะเป็นเด็กกับผู้หญิงที่อพยพมาจากยูเครน เห็นจากมีสิ่งของเครื่องใช้ที่ทุกคนนำติดตัวมาด้วย สุดท้ายเราแทบไม่ได้นอน เนื่องจากมีเสียงเด็กทั้งวิ่งเล่น คุยกัน บางคนร้องไห้ตลอดทาง จนถึงเมืองมิวนิคเวลาประมาณ เที่ยงคืน สำหรับวันนี้ค่าใช้จ่ายที่เราได้ใช้ไป รวมทุกอย่าง 7,090 บาท


ความเห็นล่าสุด